เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว

Blog ของ Somfy

รู้จักนวัตกรรมจาก Somfy ให้มากขึ้น

ประเภทบทความ

บ้านอัจฉริยะ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์คน Work from Home

บ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home ถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในปัจจุบันนี้แนวโน้มการทำงานจากบ้าน หรือ Work from Home (WFH) ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากเผชิญกับช่วงวิกฤตสุขภาพที่ผ่านมาทำให้หลายคนต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของตนเองมาเป็นการทำงานจากที่บ้านผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งการทำงานในรูปแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานออฟฟิศหรือสถานที่ทำงาน แต่จะเป็นการเข้าและออกงานตามเวลาที่กำหนดโดยใช้เทคโนโลยีในการทำงาน ประสานงาน และติดต่อสื่อสารกันบนระบบออนไลน์ทั้งหมด

คนที่ทำงานแบบ Work from Home จึงจำเป็นต้องมีทรัพยากรที่พร้อมในการทำงานเพื่อความ Productivity มากขึ้นและลดอุปสรรคหรือการถูกรบกวนจากสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ซึ่งบ้านอัจฉริยะเป็นเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์การทำงานลักษณะนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม

“บ้านอัจฉริยะ” ตอบโจทย์คน Work from Home ได้อย่างไร?

บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) คือ บ้านที่ใช้เทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things เข้ามาช่วยในการควบคุมและสั่งการอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน โดยผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของแต่ละอุปกรณ์ได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชันหรือ Home Automation ได้จากระยะไกล เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งการใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติและฟังก์ชันต่างๆ ของบ้านอัจฉริยะนั้นจะช่วยปรับและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการทำงานแบบ Work from Home ได้ในหลายๆ ด้าน ดังนี้

1. การควบคุมแสงไฟและการประหยัดไฟฟ้า

แสงสว่างเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการทำงานและแน่นอนว่าการทำงานผ่านระบบออนไลน์นั้นจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ แล็บท็อบ สมาร์ทโฟน อินเตอร์เน็ต ฯลฯ ซึ่งการทำงานด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดความเครียด รวมถึงปัญหาสุขภาพจากการทำงานในที่มืดหรือสว่างเกินไป 

โดยบ้านอัจฉริยะจะสามารถรองรับอุปกรณ์และควบคุมแสงสว่างได้โดยอัตโนมัติ เช่น 

  • หลอดไฟอัจฉริยะ Smart Light / Smart LED เป็นหลอดไฟที่สามารถปรับความสว่างและอุณหภูมิสีได้ตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าให้เปิดหรือปิดได้อัตโนมัติตามตารางเวลาหรือเปลี่ยนสีของแสง เพื่อปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้เหมาะสมกับช่วงเวลาต่างๆ ได้ เช่น การตั้งค่าให้เปิดไฟที่ให้แสงเย็นในช่วงเช้า เพื่อลดความง่วงและเพิ่มความตื่นตัว หรือการเปลี่ยนให้เป็นแสงอุ่นในช่วงเย็นเพื่อความผ่อนคลายหลังจากการทำงาน เป็นต้น
  • การประหยัดพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากอุปกรณ์ในระบบบ้านอัจฉริยะสามารถตั้งค่าเวลาเปิดและปิดไฟในบ้าน รวมถึงระบบเซ็นเซอร์ที่ตรวจจับความเคลื่อนไหวและสามารถเปิดหรือปิดไฟได้เองโดยอัตโนมัติ จึงช่วยประหยัดไฟและลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ทรัพยากรในบ้านขณะ Work from Home ได้เป็นอย่างดี

2. การควบคุมอุณหภูมิและบรรยากาศภายในบ้านให้เหมาะสม

อุณภูมิภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญและส่งผลโดยตรงต่อคนทำงาน หากอากาศร้อนหรือเย็นเกินไปอาจทำให้คนทำงานเสียสมาธิจดจ่อในการทำงานและยังส่งผลให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานหนักมากขึ้นอีกด้วย โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการทำงานที่บ้านควรอยู่ในช่วง 22-24 องศาเซลเซียส เพื่อให้คนทำงานรู้สึกสบายและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภา ซึ่งเทคโนโลยีการควบคุมอุณหภูมิและตรวจจับความชื้นในระบบบ้านอัจฉริยะจะช่วยให้คนทำงานในบ้านอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมและรู้สึกสบายตลอดวัน โดยสามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนและสามารถตั้งค่าให้ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติตามตารางเวลาหรือความต้องการ

3. การใช้เสียงเพื่อสั่งการอุปกรณ์ได้ตลอดเวลา

ในช่วงเวลาที่กำลังจดจ่อกับการทำงาน เช่น ในขณะประชุมออนไลน์ การต้องทำงานอย่างเร่งรีบจนไม่สามารถขยับตัวหรือลุกเดินไปไหนมาไหนได้อย่างที่ต้องการ การใช้ลำโพงอัจฉริยะหรือ Smart Speaker ที่ใช้ระบบการสั่งการด้วยเสียงจะช่วยให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไว้ทำงานได้ทันที เพียงพูดประโยคง่ายๆ ลำโพงอัจฉริยะจะปฏิบัติตามคำสั่งทันที เช่น คำสั่งให้เปิดหรือปิดไฟ คำสั่งปรับระดับม่านบังแดด คำสั่งให้เครื่องชงกาแฟเตรียมกาแฟไว้ให้ คำสั่งเปิดเพลงเพื่อช่วยสร้างบรยยากาศให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น เป็นต้น 

4. การควบคุมม่านไฟฟ้าเพื่อความเป็นส่วนตัว

หลายครั้งที่การทำงานแบบ Work from Home มักไม่มีความเป็นส่วนตัว เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยในบ้านมีจำกัด การถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอกบ้าน เช่น มลภาวะทางเสียง การต้องแชร์พื้นที่ร่วมกับสมาชิกในบ้าน ภายในบ้านไม่มีความเป็นส่วนตัว บรรยากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงาน เป็นต้น ซึ่งการใช้ม่านไฟฟ้าหรือม่านที่มีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าให้สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัตินั้นจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้พื้นที่การทำงานภายในบ้านมากขึ้น ดังนี้

  • ม่านไฟฟ้าสามารถใช้กั้นห้องเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ โดยจะช่วยป้องกันการถูกมองเห็นจากภายนอกและลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ ซึ่งม่านไฟฟ้าสามารถรองรับน้ำหนักม่านได้ดีแม้ว่าม่านจะมีความหนาหรือมีน้ำหนักมากก็ตาม
  • ม่านไฟฟ้ามีมอเตอร์ที่รองรับการใช้งานม่านหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ม่านลอน ม่านจีบ มู่ลี่ ม่านกรองแสงต่างๆ โดยสามารถตั้งค่าการใช้งานและควบคุมได้ผ่านสวิตช์ รีโมต แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต หรือสามารถสั่งการผ่านเสียงได้ง่ายๆ ให้ม่านไฟฟ้าสามารถเปิดหรือปิดได้เองโดยอัตโนมัติ เช่น 
    • ช่วงเช้า เมื่อเริ่มต้นวันทำงาน สามารถตั้งค่าให้ม่านเปิดอัตโนมัติเพื่อให้แสงธรรมชาติช่วยกระตุ้นความตื่นตัวและเพิ่มความสว่างให้กับพื้นที่ทำงาน
    • ช่วงกลางวัน หากแสงแดดเริ่มเข้ามามากเกินไป สามารถตั้งให้ม่านปรับระดับลงเพื่อควบคุมแสงที่เข้าสู่ห้องได้อย่างเหมาะสม
    • ช่วงบ่าย ตั้งค่าม่านไฟฟ้าให้ลดระดับลงหรือปิดเพื่อป้องกันแสงแดดที่มาทางทิศตะวันตก ซึ่งอาจทำให้เกิดการสะท้อนที่ไม่สบายตา
    • ช่วงเย็น ตั้งค่าม่านให้ปิดอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและป้องกันการรบกวนจากแสงไฟภายนอก
  • ม่านไฟฟ้าช่วยให้การควบคุมแสงไฟในบ้านอัจฉริยะมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะช่วยปรับแสงสว่างและสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการทำงานที่บ้าน รวมถึงช่วยประหยัดไฟและสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อัจฉริยะได้หลากหลายประเภท 

ข้อดีของการใช้นวัตกรรมบ้านอัฉริยะในการ Work From Home 

จากนวัตกรรมที่ทันสมัยของบ้านอัจฉริยะที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมบรรยากาศภายในบ้านให้เหมาะกับการ Work From Home แล้วยังมีข้อดีที่ตอบโจทย์คนทำงานอีกหลายประการ 

  • นวัตกรรมบ้านอัฉริยะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดี โดยจะช่วยควบคุมแสงสว่าง อุณหภูมิ และความเป็นส่วนตัวได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้คนทำงานมีสมาธิและลดความตึงเครียดในชีวิตประจำวันได้
  • เพิ่มความสะดวกสบายในการทำงาน จากการที่บ้านอัจฉริยะสามารถตั้งค่าอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ให้ทำงานอัตโนมัติตามตารางเวลาหรือความต้องการ จึงช่วยลดภาระในการจัดการสิ่งต่างๆ ภายในบ้านและเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานมากยิ่งขึ้น
  • มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ม่านไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันการถูกมองเห็นและประโยชน์ในการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ภายในบ้านแล้ว ระบบเซ็นเซอร์และระบบแจ้งเตือนต่างๆ ในบ้านอัจฉริยะ ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำงานและช่วยให้คนทำงานรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
  • ลดค่าใช้จ่าย การที่บ้านอัจฉริยะนำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้นั้นนอกจากจะช่วยให้การใช้ชีวิตและการทำงานภายในบ้านง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยการควบคุมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยังมีระบบติดตามการใช้พลังงาน ช่วยให้ผู้ใช้งานทราบถึงข้อมูลการใช้งานพลังงานภายในบ้านเพื่อวางแผนลดค่าใช้จ่ายในอนาคตได้อีกด้วย 

จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ หรือระบบ Smart Home เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การทำงานจากที่บ้านหรือ Work From Home ของคนยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมแสงสว่าง อุณหภูมิ การสั่งการด้วยเสียง และการเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยม่านไฟฟ้าล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยคนทำงานจากที่บ้านมีความสะดวกสบายท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน การนำบ้านอัจฉริยะเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันจึงถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการทำงานที่บ้านอย่างแท้จริง

 

“Somfy” ผู้นำด้านมอเตอร์อัจฉริยะและระบบม่านไฟฟ้าชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศส รองรับการใช้งานในระบบบ้านอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย 

 

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอเตอร์ม่านไฟฟ้าแบรนด์ Somfy ได้ที่

Facebook : www.facebook.com/SomfyThailand

Line OA : @SomfyTh

Tel : 062-872-7157

 

ค้นหาเพิ่มเติม
ประเภทบทความ
Disqus is inactive